ก่อนอื่นขอแนะนำตัวคร่าวๆ ก่อนนะครับ ผมชื่อปิยะพล ตังควัฒนกุล อายุ 40 ปี เป็นลูกชายคนโตของคุณพ่อสุรพลและคุณแม่รัตนาภรณ์ มีน้องชายหนึ่งคนครับ
ชีวิตผมเริ่มต้นมาก็ข้องเกี่ยวกับธุรกิจร้านอาหารมาบ้างโดยผมเกิดที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและตอนผมอายุได้ประมาณ 5-6 ขวบ คุณพ่อคุณแม่ผมก็ได้หุ้นกับญาติพี่น้องที่ประเทศไทยเปิดร้านอาหารแรกของพวกเขา ชื่อร้าน “Siamese Restaurant” ซึ่งก็ไปได้ดีระดับนึงแต่เหตุผลที่ทำให้ร้านไปต่อไม่ได้และคุณพ่อต้องเซ้งร้านไปนั้นก็เพราะปัญหาด้านกุ๊ก ซึ่งคุณพ่อและคุณแม่ผมไม่ได้เป็นคนทำครัว (พี่ชายคุณพ่อรับหน้าที่เป็นเชฟ) พอพ่อครัวเกิดคิดถึงบ้านแล้วหนีกลับไปก็เลยเกิดปัญหาในครัว พอคุณพ่อคุณแม่หาพ่อครัวคนอื่นมาทำ อาหารก็รสชาติเปลี่ยนไป ลูกค้าก็ไม่ประทับใจกับอาหารของร้านทำให้เสียลูกค้าไปเรื่อย ๆ ท้ายสุดพ่อก็เลยต้องเซ้งร้านไปหลังจากเปิดมาได้แค่ประมาณปีครึ่ง ต่อมาพอผมย้ายกลับมาอยู่ที่ไทย ช่วงม.ปลายคุณพ่อคุณแม่ก็เปิดร้านอาหารที่ประเทศไทยชื่อร้าน “ต้นโพธิ์” ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็ได้ไปจ้างพ่อครัวแม่ครัวในละแวกนั้นมาเป็นคนทำครัวโดยพ่อแม่ผมออกแต่ทุนและช่วยบริหารหน้าร้าน
ท้ายที่สุดพอร้านยังไม่มียอดขายที่ดีมากพอ พ่อครัวกับแม่ครัวก็เริ่มวิตกกังวลว่าร้านจะไปไม่รอดก็เลยหนีไปอีกเช่นเคย พ่อแม่ผมก็ยังทำครัวไม่ค่อยเป็น แล้วก็เกิดปัญหาแบบเดียวกันกับร้าน Siamese Restaurant
ในปีนี้ผมมีโอกาสที่จะได้กลับมาที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเนื่องจากลูกสาวจะเข้าเรียนม.ต้นที่ชิคาโก้ ผมเล็งเห็นแล้วว่าร้านอาหารไทยเป็นธุรกิจที่คนไทยนิยมทำ และเหนือสิ่งอื่นใด อาหารเป็นปัจจัยสี่ที่ทุกคนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ถึงแม้จะมีโรค Covid 19 ระบาดแต่ร้านอาหารก็ยังเป็นธุรกิจที่ยังสามารถไปต่อได้เนื่องจากคนยังต้องกินอาหารกันทุกวัน ผมเองในช่วงที่โควิดระบาดก็ได้มีโอกาสทำอาหารทานกับลูกสาวกับครอบครัวอยู่เป็นประจำทำให้รู้สึกชอบและมีความสุขที่ได้ทำอาหารให้คนที่เรารักทาน ยิ่งถ้าทำแล้วคนทานกันหมดและชมว่าอร่อยนี่ เป็นความรู้สึกที่พิเศษมากๆเลย
ด้วยความที่ผมได้มาเที่ยวที่ประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่บ่อยๆ ทำให้รู้ได้อย่างนึงว่าอาหารที่นี่มีการปรับสูตรเพื่อให้ถูกปากฝรั่งมากขึ้น และอาจเป็นเพราะเครื่องปรุงที่มีไม่ครบเหมือนที่ประเทศไทย แต่การจะหาอาหารไทยที่รสชาติอร่อย ถึงเครื่อง และมีความเป็นต้นตำรับได้ค่อนข้างยาก พอได้รู้อย่างนี้แล้วก็เลยคิดอยากจะมาเรียนกับสถาบันที่มีคุณภาพและมีความรู้และหลักสูตรอาหารไทยที่คงเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้มากและรสชาติอาหารต้องอร่อยอย่างแท้จริง ผมจึงได้ตัดสินใจเลือกลงคอร์สเรียนที่ครัววันดี และจากปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่ประสบมาในอดีตทำให้ผมเลือกเรียนคอร์สหลักสูตรเจ้าของธุรกิจร้านอาหารที่ให้ผมได้เลือกเรียนทั้งในส่วนของอาหารไทยต้นตำรับ น้ำซอสสำเร็จรูป การแกะสลักผักผลไม้เพื่อประดับ ศิลปะการตกแต่งจาน และหลักสูตรเกี่ยวกับการบริหารร้านอาหารในหลากหลายแง่มุม
สิ่งที่ผมได้รับจากการเรียนที่ครัววันดีนั้นเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ามากครับ เพราะผมได้มีโอกาสศึกษาการทำครัวที่เป็นรูปแบบ มีมาตรฐาน ได้ลงมือปฏิบัติจริงทั้งในส่วนของการเตรียมวัตถุดิบ, การลงมือทำอาหาร, การชั่งตวงวัด ทำให้ผมมีความมั่นใจเป็นอย่างสูงว่าต่อให้ผมต้องพบเจอปัญหาแบบคุณพ่อคุณแม่ในอดีตก็สามารถที่จะผ่านมันไปได้ด้วยการทำครัวที่เป็นมาตรฐาน มีซอสปรุงสำเร็จรูป มีการชั่งตวงวัดทุกอย่างอย่างเป็นระบบ เพราะฉะนั้นใครมาทำครัวก็จะสามารถทำให้รสชาติอาหารเหมือนกันทุกจาน นอกจากนั้นอาหารไทยต้นตำรับที่ผมได้เรียนมา นอกจากจะมีการนำเสนอที่สวยงามน่ารับประทานแล้ว ยังมีรสชาติที่จัดจ้าน อร่อยมากๆ ขนาดคนไทยเองยังชมว่าอร่อยเลย เพราะฉะนั้นถ้าปรับสูตรให้คล้ายกับที่เรียนมาผมว่าโอกาสประสบความสำเร็จก็อยู่แค่เอื้อมแล้วครับ
นอกจากมาตรฐานการเรียนที่ดีจากครัววันดีแล้ว ผมยังประทับใจในบุคลากรคุณครูของทางโรงเรียนอย่างมากเลย ครูทุกท่านที่ผมได้เรียน (ครูน้อง, ครูจ่อม, ครูป้อม) ล้วนแล้วแต่น่ารัก, เป็นกันเอง และสอนแบบไม่มีกั๊กเลยครับ สอนผมทุกอย่างตั้งแต่ทฤษฎี ความแตกต่างระหว่างเครื่องปรุงแต่ละชนิด การพลิกแพลงสูตรอาหาร และให้ผมได้ลงมือในทุกขั้นตอนทำให้ผมเกิดความมั่นใจในการทำอาหาร ผมไม่รู้ว่าจะขอบคุณคุณครูทุกท่านได้อย่างไรสำหรับประสบการณ์ที่ล้ำค่านี้ ผมสัญญาว่าจะนำความรู้ที่คุณครูทุกท่านมอบให้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดครับ ขอบคุณครับคุณครู
Comments